Lesson 4. ค่าตัวโน้ต( Notes Value)

     ตัวโน้ตดนตรีมีเริ่มใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 โดย กีโด เดอ อเรซ์โซ (Guido d’ Arezzo, 995-1050) บาทหลวงชาวอิตาเลียน ต่อมาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งสมบูรณ์อย่างที่เราได้พบเห็นและ ใช้กันในปัจจุบัน ตัวโน้ตเปรียบเสมือนภาษาที่สามารถสื่อให้นักดนตรีทราบถึงความสั้น – ยาว, สูง – ต่ำ ของระดับเสียงได้ เราจึงควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับลักษณะของตัวโน้ตดนตรี (Music Notation)
     หลังจากที่เราได้ทำึความคุ้นเคย กับชื่อของตัวโน้ต และ สัญลักษณ์ตัวหยุุดแล้ว เราลองมาดูค่าของตัวโน้ตแต่ละตัว

Lesson 3. ธรรมชาติของมือ Natural Curve

     เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เล่นเปียโน ด้วยความตึงเครียดเกินไป เนื่องจากมีการเกร็งของกล้ามเนื้อมือของพวกเขาบ้าง นิ้วที่เกิดอาการเกร็ง จะทำให้ซ้อมไม่ได้นาน เมื่อมีการเกร็ง เสียงที่เล่นออกมาก็จะไม่เต็มที่
การวางมือบนคีย์บอร์ดจิงเป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการเล่นเปียโน การวางมือที่ดีคือการที่เราปล่อยให้มืออยู่ในท่าที่ผ่อนคลายที่สุด เกิดการเกร็งน้อยที่สุด นั่นก็คือท่า “โค้งธรรมชาติ” หรือ Natural Curve
     ในท่านี้มือจะมีลักษณะที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีการงอ หรือ เกร็งข้อมือ แขนของคุณจะไม่มีการดัดให้ข้อมือไปยังทิศทางใดๆ ในตำแหน่งนี้มือของคุณจะรู้สึกหลวมๆ สบายๆ
 เริ่มด้วยการนั่งตัวตรง ปล่อยแขนห้อยลงข้างลำตัว สังเกตุว่ามือและแขนเราจะห้อยลง มือจะโค้งตามธรรมชาติของลักษณะมือเล็กน้อย สังเกตุได้ว่าการวางมือในท่านี้ จะทำให้มือของเรามีการเกร็งน้อยที่สุด และ มีฐานที่ตั้งมั่น
     จากนั้นค่อยๆนำมือวางบนคีย์บอร์ด โดยให้ลักษณะรูปมือเป็นเหมือนตอนที่กำลังนั่งห้อยแขนข้างลำตัวอยู่ปล่อยน้ำหนักให้ข้อศอกทั้ง 2 ข้างห้อยตกลงตามธรรมชาติ ไม่หนีบ หรือ ใช้ร่างกายเกร็งรับน้ำหนักข้อศอกไว้ยกข้อมือขึ้นเพื่อให้ตามแนวโค้ง และ ระดับของมือ
ในท่านี้เราสามารถใช้แรงจากแขน ข้อศอก มาช่วยนิ้วในการกดคีย์ได้เต็มที่

Lesson 2. โน้ตบนเปียโน

ใน Lessonที่ 2 นี้ เราจะพาคุณมารู้จักกับโน้ตบนเปียโนกัน โน๊ตที่เรากำลังจะพูดถึงมีทั้งโน้ตที่อยู่บนบรรทัด 5 เส้น, โน๊ตที่อยู่เหนือ และต่ำกว่าบรรทัด 5 เส้น คุณสามารถใช้ Lesson นี้สำหรับเทียบตัวโน้ตกับคีย์บนเปียโนได้เลยค่ะ  บทเพลงเปียโนสำหรับผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่จะใช้โน้ตที่อยู่ในบรรทัด 5 เส้น เราจิงควรเริ่มต้นฝึกการอ่านโน๊ตเปียโนที่อยู่บนบรรทัด 5 เส้นนี้ให้คล่อง
โดยวิธีฝึกอ่านโน้ต เราไม่ขอแนะนำให้คุณจำโน้ตเหล่านี้ภายในวันเดียว หรือ เดือนเดียว
สำหรับวิธีการอ่านโน้ต คุณสามารถดูได้จาก Piano Thailand| วิธีอ่านโน้ต

โน้ตที่อยู่เหนือ และ ต่ำกว่าบรรทัด 5 เส้น (เส้นน้อย)เส้นน้อย หรือ Ledger Line (เล เจอร์ ลายน์ส) หมายถึงเส้นขีด ที่ถูกเขียนขึ้นในแนวขวาง ขนานกับบรรทัด 5 เส้น  เส้นขีดจะมีความยาวกว่าตัวโน้ตอยู่นิดหน่อย เส้น Ledger Line ถูกใช้เพื่อให้เราสามารถอ่านโน้ตที่อยู่เหนือ และตำกว่าบรรทัด 5 เส้นได้ง่ายขึ้นยกตัวอย่างจากภาพด้านล่างเช่น โน้ตตัว A (ลา) โน้ต จะมีเส้นขีดขวางอยู่ 1 ขีด หรือ 1 Ledger Line และเมื่อเราชำนาญการอ่านโน้ตบนบรรทัด 5 เส้นได้คล่องแล้ว ให้เราฝึกอ่าน และจำโน้ตด้านล่างนี้ให้คล่องด้วยค่ะ

Lesson 1. สัญลักษณ์พื้นฐานบนโน้ตเพลง

     ใน Lesson นี้ เราจะมาทำความรู้จักับสัญลักษณ์ต่างๆ บนโน้ตเพลง ที่เราจะพบบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น กุญแจซอล, กุญแจฟา, ตำแหน่งนิ้ว และ บรรทัด 5 เส้น
     กุญแจซอล หรือ Treble Clef ในภาษาอังกฤษ แปลว่าเสียงสูง หรือ เสียงแหลม สำหรับเปียโนแล้ว โดยมากจะหมายถึงโน้ตที่ใช้มือขวาเล่น เนื่องจากเป็นกุญแจที่ใช้บันทึกโน้ตที่มีเสียงสูง และเมื่อลองวางมือขวาลงบนคีย์ของเปียโน ตำแหน่งของมือขวาจะอยู่ในแถบเสียงสูงของเปียโน โดยกุญแจจะวางคาบอยู่บนเส้นที่ 2 ของบรรทัด 5 เส้น ดังนั้นโน้ตที่วางคาบอยู่บนเส้นที่ 2 จะมีค่าเป็น ซอล ตามชื่อของกุญแจ
     กุญแจฟา หรือ Bass Clef ในภาษาอังกฤษ แปลว่าเสียงทุ้ม หรือ เสียงต่ำ สำหรับเปียโนแล้ว โดยมากจะหมายถึง โน้ตที่ใช้มือซ้ายเล่น เนื่องจากเป็นกุญแจที่ใช้บันทึกโน้ตที่มีเสียงต่ำ และเมื่อลองวางลงบนคีย์ของเปียโน ตำแหน่งของมือซ้ายจะอยู่ในแถบเสียงต่ำของเปียโน โดยกุญแจจะวางคาบเส้นที่ 4 ของบรรทัด 5 เส้น ดังนั้นโน้ตที่วางคาบอยู่บานเส้นที่ 4 จะมีค่าเป็น ฟา ตามชื่อของกุญแจ
     บรรทัด 5 เส้น หรือ Staff เกิดจากเส้นตรง 5 เส้น ขีดซ้อนกันในแนวนอน ซึ่งจะบอกให้ทราบถึงระดับเสียงของดนตรีหรือตัวโน๊ตนั้นว่าเป็นเสียงอะไร โดยที่แต่ละเส้นและช่องระหว่างเส้นทั้ง 5 นั้น จะมีค่าเสียงที่ต่างกันไป โดยเริ่มจากเสียงต่ำไปหาสูง คือไล่จากเส้นล่างไปหาเส้นบน และจะกำหนดค่าของเสียงด้วยกุญแจ (Key Signature) คือ Treble Clef และ Bass Clef